TFEX
5 Min Read

สายเทรดหุ้นนอกต้องรู้ ก่อนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

by TFEX

15600x330

การลงทุนในตลาดต่างประเทศกำลังได้รับความนิยมจากนักลงทุนไทย เพราะหลายธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง พร้อมกับสภาพคล่องในการซื้อขายที่มีปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็กก็ตาม ส่งผลให้นักลงทุนไทยส่วนหนึ่งเริ่มกระจายการลงทุนไปหุ้นนอกมากขึ้น 

 

การไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศนั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การไปเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรง การซื้อกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ หรือการซื้อ DRx ผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งแต่ละรูปแบบรองรับความต้องการที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกทางเลือกมีเหมือนกันก็คือ “ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน” 

 

พูดง่าย ๆ ว่า หากขายหุ้นต่างประเทศแล้วได้กำไร แต่ถ้าเงินบาทกำลังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น การนำเงินกำไรดังกล่าวนั้นกลับมาและแปลงเป็นเงินบาท อาจส่งผลต่อกำไรที่ลดลง หรืออาจขาดทุนได้ แต่ถ้าโชคดีเงินบาทอ่อนค่า ก็อาจทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นได้ 

 

🌍 เปลี่ยนความผันผวนของค่าเงินให้เป็นกำไร

 

ถ้าเราคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะแข็งขึ้น แล้วทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศลดลง จะดีไหมหากเราสามารถป้องกันความเสี่ยงดังกล่าวได้ หรือทำกำไรได้เพิ่มจากกรณีที่เงินบาทแข็งค่า โดยนักลงทุนสามารถ Short USD/THB Futures เอาไว้ ซึ่งทุกการแข็งค่า 1 บาท (เช่น 35 -> 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) จะทำให้มีกำไร 1,000 บาทต่อสัญญา  

 

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น สมมติว่าเราลงทุนหุ้นนอกเป็นจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นมูลค่า 350,000 บาท) 

 

💸 หากมูลค่าหุ้นในช่วงที่เราต้องการขาย ขยับขึ้นเป็น 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินบาท กลับร่วงลงมาอยู่ที่ 32 บาท นั่นเท่ากับว่า เมื่อเราขายหุ้นออกไป จะได้หุ้นคิดเป็นมูลค่า 480,000 บาทเท่านั้น ซึ่งหายไปจากที่ควรจะเป็นถึง 45,000 บาท เลยทีเดียว (มูลค่าหุ้นควรจะเป็น 525,000 บาท ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)

 

แต่ถ้าคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะแข็งขึ้น เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และเราทำการเปิดสถานะ “ขาย” (Short) USD/THB Futures เอาไว้ก่อน จำนวน 15 สัญญา* หากราคาทุกอย่างเป็นไปตามตัวอย่างก่อนหน้า เราก็จะได้กำไรจากการ Short ที่ 45,000 บาท ซึ่งถือว่าชดเชยผลขาดทุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนลงได้

 

ใครที่กำลังสงสัยว่าได้กำไร 45,000 บาทได้อย่างไร ก็ต้องอธิบายเสริมว่า ขนาดของ USD/THB Futures 1 สัญญา จะอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกำไรที่ได้ ก็จะได้มาจาก จำนวนสัญญาทั้งหมด คูณกับขนาดของสัญญา คูณกับผลต่างของค่าเงินที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งก็คือ 3 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

 

หรือก็คือ (15 สัญญา x 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ) x (35 - 32 บาท) = 45,000 บาท นั่นเอง

 

(*USD/THB Futures 1 สัญญา ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นในการวางหลักประกันราว ๆ 1,000 บาทต่อ 1 สัญญา)

 

❗ แต่การใช้สัญญา USD/THB Futures นอกจากต้องระวังเรื่องของการบริหารเงิน กับอัตราทดแล้ว ก็ต้องระวังเรื่องของความผันผวนด้วย เพราะจากสถานการณ์ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็ง แต่หลังจบการเลือกตั้งสหรัฐฯ ค่าเงินบาทก็อ่อนลงอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นโอกาส แต่ก็ควรที่จะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีเช่นกัน

 

📝 ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ของการทำประกันความเสี่ยง ให้สอดคล้องกับหุ้นในพอร์ตของเรา ซึ่งแน่นอนว่าจริง ๆ แล้ว TFEX ยังมีตัวเลือกสินค้าอ้างอิงให้เลือกเทรดหรือใช้ประโยชน์ได้อีกมาก รวมทั้งยังสามารถใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ อย่างการใช้เพื่อทำกำไรได้เช่นกัน

 

⚠️ โดยเฉพาะเครื่องมือฟิวเจอร์ส ที่ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยและเป็นสินค้าที่สามารถใช้อัตราทด (Leverage) ได้ ซึ่ง Mindset สำคัญที่ต้องเตือนนักลงทุนก่อนที่จะเริ่มใช้เครื่องมือนี้ ก็คือ

 

- ต้องตั้งเป้าหมายการลงทุนทุกครั้ง ว่าจะใช้ฟิวเจอร์ส เพื่อจุดประสงค์อะไร

 

- ควรมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนตั้งแต่แรก

 

- วางเงินให้มากกว่าเงินหลักประกันขั้นต่ำเสมอ เพื่อให้มีเงินประคองพอร์ตกรณีที่สินทรัพย์วิ่งไปคนละทางกับที่คาดการณ์ 

 

- ควรรู้จักการบริหารเงินหน้าตัก (Money Management) รวมทั้งต้องรู้จัก Cut Loss ให้เป็น หากรู้ตัวว่าสินทรัพย์วิ่งผิดทางไปไกลแล้ว

 

📖 ซึ่ง Mindset ข้างต้นเหล่านี้ คือสิ่งที่สามารถศึกษา และหาความรู้เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ โดยนักลงทุนท่านใด ที่ต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่ม หรือสนใจในการใช้เครื่องมือฟิวเจอร์ส และรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทั้งหมดได้เลยที่ https://setga.page.link/f6eT

 

#TFEX #SET50Futures #USDFutures #หุ้น #สกุลเงิน #ลงทุน


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง